ห้องที่ ๑๖๑ : พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร


           พระมกุฎพระลบรั้ง แรมพนา เวศเฮย
เสรจโค่นขุนพฤกษา แหลกล้ม
ครไลลุสฐานอา ศรมบท
สู่พระมาตุเรศก้ม กราบแจ้งอนุสนธิ์
           ฟังดไนยนงลักษณปลื้ม เปรมจิตร
ว่าพ่อชไมยมิตร ร่วมไร้
สมเปนเอกอดิศร์ วรเผ่า พันธ์นา
สิทธิศักดิสมวงษได้ ดั่งนิ้ดีเหลือพลันนา
           เชฐองค์โอรสเอื้อน อัดถ์ถาม พลันนา
พระแม่จุ่งแถลงความ หนึ่งน้อย
บิตุราชลูกรักนาม ไฉนนั่น พระนา
สถิตยทิแตใดข้อย คิดอ้นฉงนฉงาย
           ชลไนยนองเนตรแจ้ง เหตุหน หลังแฮ
อ้าพ่อวรยุคล คู่ไร้
อันองค์พระจุมพล ชนกนารถ พ่อฤๅ
นามพระราเมศรได้ผ่านด้าวอยุทธยา
           นางแสดงโดยเหตุเบื้อง บรรพกาล สิ้นนอ
ยกสาตรวิวาห์วาร แต่งตั้ง
ตราบต้องทุกขทรมาน มาพึ่ง ชฎิลแฮ
จบเรื่องเอารสทั้ง นาฎซ้องโศกศัลย
           ปางบรมรามราชเจ้า อยุทธยา
เสดจออกหมู่มาตย์ดา ดาษเฝ้า
ยินก้องเกิดโกลา หลเหตุ มหันต์แฮ
หลากหฤไทยท่านเร้า เร่งซั้นสอบถาม
           โหราจาริยะแจ้ง เจนตำ หรับเฮย
รับราชโองการธรรม ธเรศไท้
สอบทั่วเสรจทุกคำ ภีรภาคย์
สอบบ่เหนเหตุให้ อัดอั้นอกฉงน
          ต่างประนมนอบเกล้า กราบทูล
ข้าแต่นเรนทรสูรย ผ่านหล้า
คำภีร์บ่แจ้งมูล เหตดุจ นี้เลย
แต่ลิขิตคดีช้า เนิ่นโน้นมีปาน
           ปางบรริพธร้รมิกเจ้า ลอมสา กลเฮย
กับพระไตรยอนุชา เพริศแพร้ว
ลองฤทธิราชศรา วุธผาด แผลงแฮ
ถวายพระทูลกระหม่อมแก้ว ที่คล้อยคืนสวรรค์
           สรเทือนสรทกฟ้า ดินดาล
เหตุก็พอปูนปาน เปรียบได้
ชรอยผู้รุ่งฤทธิชาญ เชิงสาตร
ลองวราวุธใกล้ เขตรแคว้นแดนนคร
           ผิผู้เรืองฤทธินี้ ใจตรง อยู่ฤๅ
คงบขัดพระประสงค์ ท่านได้
ผิวะคิดขบถคง แขงแข่ง คำนา
หักก่อนดีกว่าให้ แก่กล้ามาผจญ
           ขอจงแต่งอัศวอ้าง อุประการ นามฤๅ
ครบเครื่องสุวรรณสาส์น สอดห้อย
เสี่ยงสัตยปล่อยสู่สฐาน นิคมเขตร ขันธแฮ
ให้บุตรวายคล้อย คลาศด้อมดอดตาม
           ในสาสนจงแจ้งว่า พระจักรา ราชแฮ
ผดุงภพเพ่งกรุณา ทัวหู้น้า
คาบนี้มหัศจรรย์ปรา กฎเกิด เปนแฮ
จึ่งปล่อยม้าหมายรู้ เรื่องแจ้งใจชน
           ใครครองวรสัจตั้ง ต้นกตัญ ญูนา
จงสการอัศวอัน อาศณ์ไท้
ใครจ้วงจู่จับขัน ขบขี่ ก็ดี แฮ
คือขบถบ่ไว้ ชิพต้องตายเติยน
          คงจะประจักษแจ้ง ใจชน ได้นา
ใครซื่อใครคดคน คิดร้าย
ผิวะพบพวกทรพล ผู้ประทุษฐ ไทยแฮ
จับอย่าเหลือเหล่าอ้าย อาจเอื้อมโอหัง
           ฟังสารซั้นสั่งให้ หณุมาน
รีบสู่ไกยเกษสฐาน ถิ่นด้าว
ทูลสองอนุชาชาญ ไชยเยศ
เชิญเสดจกนิฐท้าว เร่งร้อนเรวถึง
           วายุบุตรรับสั่งคล้อย คลาจร
ลุแหล่งไกยเกษนคร ไป่ช้า
ทูลองค์อดิศร สองกระษัตริย์
โดยพระจอมเจ้าหล้า ตรัสใช้เชิญองค์
           สองทราบดำรัสเร้า เร่งพหล
เพียบพยุหบาตรพล พรั่งพร้อม
ยกรัดรีบเดินดล อยุทธเยศ แล้วแฮ
สองสู่สุรราชน้อม นอบเฝ้าฟังสาร
           จักรพงษภูวนารถเอื้อน โองการ
เหตุอุบัติบันดาน กึกก้อง
สงไสยวาไภยพาล พวกอมิตร มีนา
จึ่งจะให้พระน้อง จับเสี้ยนไอยสวรรย์
           จักรังลิขิตคล้อง ฅออา ชานา
ปล่อยออกนอกนัครา รีบเต้า
อิกขุนกระบินทรวา ยุบุตรติด ตามแฮ
ให้อนุชยกพลเร้า รีบต้อนตอนหลัง
           ยุคลขัดติยะท้าว ทูลสาร
สรวมชีพใต้บทมาลย์ ปิ่นหล้า
การเพียงจะรำบาน อรินทรราช นี้ฤๅ
ตกพนักงานข้า พี่น้องสองศรี
          พระหยิบสองเกราะแก้ว กันอา วุธเฮย
เรืองฤทธิสิทธิศักดา เดชล้ำ
เคยทรงสู่ศึกมา ทุกคาบ ครั้งแฮ
ประสิทธิแด่อนุชซ้ำ สั่งให้เตรียมพหล
           สองราชรับพจนแล้ว ลาคลา
จากพระโรงสู่พลับพลา สั่งให้
โหรเฒ่าเหล่าพฤฒา จาริย์จัด พิธีนา
มาตยรับโองการไท้ ธิเบศน้องอวตาร
           ขุนม้าจูงมิ่งม้า มาพลัน
อาลักษณ์เชีญสาสน์สุวรรณ ผูกเข้า
เวียนเทียนเจ็ดรอบบัน ลือสุรนาท ประโคมแฮ
สรวงประกาษเทพเจ้า ข่าวทั้งไตรสฐาน
           สรรพเสรจปล่อยอัศวแคล้ว คลาจร
วายุบุตรตามอัศดร ดุ่มเด้า
ปางองค์อดิศร สองกนิฐ รามแฮ
ทรงรถยกพลเต้า สุดท้ายผายหลัง
           กล่าวกลับองค์พี่น้อง เนากุฎี ดงเอย
ลาบาทพระชลนี นาฎเจ้า
จักใคร่เที่ยวไพรศรี หวังศุข จิตรแฮ
นางสดับดานจิตรเร้า รุ่มร้อนฤไทยไหว
           พลันห้ามปิยบุตรด้วย เกรงไภย
สองบ่อฟังร่ำไร โศกสอื้น
จนจิตรจึ่งอวยไชย ยอมอนุ ญาตนา
สองสดับกลับชื่นชื้น ชอบน้ำใจเกษม
           ลาแม่แลลาเบื้อง นักธรรม์ แล้วแฮ
โทราชกุมารผัน ผาดคล้อย
เที่ยวชมพฤกษไพรสัณฑ์ แสนสนุกนิ์ สนานนอ
ชมส่ำสัตวใหญ่น้อย ถิ่นถ้ำลำลหาน

จบห้องที่ ๑๖๑

  เนื้อความกล่าวถึงกุมารทั้งสองกลับมาเล่าเหตุการณ์ให้นางสีดาฟัง นางปลาบปลื้มโอรสทั้งสองที่มีความสามารถสมกับเป็นเชื้อสายผู้เป็นใหญ่ พระมงกุฎจึงถามถึงบิดา นางบอกว่า พระบิดาคือพระรามเป็นกษัตริย์ครองเมืองอยุธยา และเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ยกศรจนกระทั่งประสบเคราะห์กรรมต้องมาขอพึ่งพระดาบส กล่าวถึงพระรามเสด็จออกว่าราชการ ได้ยินเสียงก้องกัมปนาทจึงให้โหรตรวจสอบ โหรทูลว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่มีในตำรา แต่คล้ายกับครั้งที่พระรามและพระลักษณ์ลองฤทธิ์ศรถวายพระบิดา บังเกิดเสียงกึกก้องสะเทือนทั่วฟ้าดิน ครั้งนี้อาจเป็นด้วยผู้มีอาคมลองฤทธิ์อาวุธอยู่ใกล้พระนคร ผู้นั้นอาจซื่อตรงจงรักภักดีหรืออาจคิดกบฏแข่งอำนาจ ควรตัดเหตุเสียก่อน ขอให้ประกอบพิธีปล่อยม้าอุปการและผูกสารติดคอม้า แจ้งว่าพระรามทรงปล่อยม้าอุปการ ผู้ใดพบม้าหากซื่อสัตย์กตัญญูก็ให้เคารพสักการะ ผู้ใดจับหรือขึ้นขี่จะถือว่าเป็นกบฏ ไม่ไว้ชีวิต พระรามตรัสสั่งให้หนุมานติดตามม้า และให้ไปทูลเชิญพระพรตและพระสัตรุดจากเมืองไกยเกษคุมกองทัพตามม้าอุปการ หากมีศัตรูจะได้ปราบปราม ฝ่ายพระมงกุฎและพระลบขออนุญาตออกเที่ยวป่าอีก นางสีดากังวลใจจึงห้ามไว้แต่สองกุมารก็ร่ำร้องขอไป นางจึงจำใจอนุญาต

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ดั่งนี้ดีเหลือ”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สถิตยที่แต่ใดข้อย”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ปางบรรพธรรมิกเจ้า จอมสา กลเฮย”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ให้บุตรวายุคล้อย”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทั่วหน้า”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ขับขี่ ก็ดีแฮ”